กรณีที่องค์กรใหญ่ ๆ  ได้เริ่มมีการตื่นตัว มากขึ้นสำหรับการรับพนักงานใหม่เข้ามา สู่องค์กร แต่พอถึงการประเมินผลการปฏิบัติงาน ว่ามีการผ่านทดลองงานหรือไม่ผ่านทดลองงาน จะใช้อะไรเป็นเกณฑ์มาตรฐานดีว่า  จำนวนเท่าไรจึงจะเหมาะสม  ในทางปฏิบัติ ถ้าเรามาพิจารณาให้เห็นถึงประเด็นข้อเท็จจริงว่า  กรณีที่บริษัทพิจารณาประเมินผลการปฏิบัติงาน ของพนักงานที่อยู่ในช่วงทดลองงาน เช่น  รับพนักงานใหม่มา  100  คน บริษัทมีการประเมินผลผ่านทดลองงานทั้งหมด 100  คน  แสดงว่าบริษัทรับพนักงานมาตรงความต้องการของบริษัททั้งหมด หรือไม่อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ  บริษัทไม่หลักเกณฑ์ที่ดีพอ  สำหรับการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานใหม่  มีเท่าไรก็ได้หมด  มุมมองหนึ่งที่มองบริษัทว่า  มีระบบการประเมินผลการผ่านทดลองงานไม่ค่อยเข้มข้น  อาจจะมีพนักงานบางส่วน  ที่เป็นพนักงานใหม่ และเป็นคนเก่ง มองว่าบริษัทไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์ อย่างไรก็ได้  คนเก่งมักไม่ชอบ  ไม่มีความท้าทายสำหรับองค์กรแห่งนี้

ฉะนั้นบริษัทที่ได้มาตรฐานโดยทั่วไป  จึงต้องวางระบบในการประเมินผลการปฏิบัติงานกรณีไม่ผ่านทดลองงาน  แบบเข้มข้น  ถ้ามีกรณีที่เป็นประเด็นที่บริษัทกำหนดไว้ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ ไม่สามารถให้ผ่านทดลองงานได้  ก็จะต้องให้ทุกหน่วยงาน เคร่งครัดในการประเมินลูกน้องในสังกัด ให้เกิดความเท่าเทียมกันทั้งบริษัท  ไม่มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน  ยกตัวอย่างเช่น บางบริษัทกำหนดหลักเกณฑ์เอาไว้  กรณีที่พนักงานที่ในช่วงทดลองงาน  จะต้องไม่มีวันที่มาทำงานสายต่อเดือนต้องไม่เกิน  4  วัน  ไม่มีวันลากิจ  ลาป่วย และกรณีที่มีการลงโทษตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร  สำหรับที่ยกตัวอย่างมานั้น  เป็นข้อกำหนดเบื้องต้นที่ ทุกหน่วยงานต้องยึดถือปฏิบัติ เป็นมาตรฐานกลาง  ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์นี้  ถือว่าทุกหน่วยงาน จะต้องประเมินพนักงานในสังกัดไม่ผ่านเหมือนกัน   หรือกรณีที่พนักงานอยู่ในช่วงทดลองงานไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์  ที่เป็น core Value ขององค์กร  ก็ถือว่าเป็นกรณีที่จะต้องไม่ผ่านการทดลองงานอีกเช่นกัน

สำหรับการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของในแต่ละหน่วยงานนั้น  ฝ่าย HR จะต้องเข้ามาเป็นตัวกลางและตรวจสอบทุกหน่วยงาน  ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด  ก็จะมีส่วนทำให้ การปฏิบัติ กรณีการประเมินไม่ผ่านทดลองงาน เกิดความมาตรฐานทั้งองค์กรได้ แต่บางบริษัทได้มีการกำหนดผลการประเมินการไม่ผ่านทดลองงานไว้ที่  15 % ไว้เลย  ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแนวปฏิบัติของแต่ละองค์กร ว่าควรจะเซ็ท  อยู่ในรูปแบบใดจึงจะเหมาะสม